ครัว ที่ดี หรือ ครัว ที่สวย
วิธีการออกแบบทำห้องครัวในบ้านนั้นส่วนมากเราจะนึกถึงเพียงแค่ความสวยงามเพียงอย่างเดียว แต่ลืมไปว่า การใช้งานที่สะดวกของครัวก็มีความสำคัญพอๆกัน บางคนอาจจะยังไม่รู้ว่า ในความเป็นจริงแล้วขนาดความกว้าง ยาว สูง ของเคาน์เตอร์ หรือตู้ลอยห้องครัวที่เราใช้กันอยู่ทุกๆวันนี้ ล้วนแต่มีการวิจัยและกำหนดขนาดมาแล้วเป็นพื้นฐาน ซึ่งนักออกแบบบางคนเรียกมันว่า ขนาดขั้นพื้นฐานในการออกแบบเฟอร์นิเจอร์ “มันเป็นขนาดปกติของการออกแบบครับ ปรับได้แต่อาจจะใช้งานลำบาก” เป็นคำติดปากของช่างและนักออกแบบจนอาจจะทำให้บางท่าน ไม่กล้าที่จะปรับเปลี่ยนอะไรเลยก็เป็นได้ แต่ในความคิดของผม มันปรับเปลี่ยนได้นะ ให้มันเหมาะกับเรา แต่อาจจะไม่ใช่ทั้งหมด ตู้ในครัวหรือเคาน์เตอร์ครัว บางครั้งอาจจะสูงเกินไปสำหรับคนไทยตัวเล็กๆอย่างเราจริงไหมครับ มันอยู่ที่ความเหมาะสมของการใช้งานของเรามากกว่า
ทำห้องครัว เริ่มจากอะไรดี
แน่นอนว่าสิ่งที่จะเข้ามาส่งผลกับเคาน์เตอร์ของเรานั้นก็คือ ขนาดพื้นที่ของห้องครัวและลักษณะการใช้งานที่เกิดขึ้นจริงๆของเราครับ การวางเคาน์เตอร์ครัวที่นิยมโดยปกติมีการจัดวางอยู่ 4 ลักษณะหลักๆ
- ครัวรูปตัวไอ ( I Shape ) หรือการจัดแบบชิดผนังเดียว
- ครัวตัวไอ สองด้าน ( Galley ) หรือการจัดวางแบบขนาน
- ครัวตัวยู ( U Shape ) การจัดแบบเข้ามุมทั้ง 3 ด้าน
- ครัวรูปตัวแอล ( L Shape ) การจัดแบบเข้ามุมด้านเดียว
ขอบคุณภาพจาก baansuansabuy
จากภาพจะเห็นว่าตำแหน่งของที่ล้างจาน ตู้เย็น และ เตา ถูกวางในพื้นที่ที่สามารถใช้งานห้องครัวได้อย่างสะดวกตั้งแต่ขั้นตอนเก็บ เตรียม และปรุงอาหารซึ่งเป็นหัวใจของการทํา เคาน์เตอร์ครัว
เลือกขนาด เคาน์เตอร์ ครัว ให้เหมาะ
การทำเคาน์เตอร์ครัวไม่ว่าจะเป็น build-in หรือ เคาน์เตอร์ครัวสำเร็จรูป ล้วนแต่มีขนาดที่ถูกกำหนดไว้อย่างเหมาะสมเช่นเดียวกัน ซึ่งส่วนมากนั้นความสูงจะอยู่ที่ราวๆ 85-90 cm รวม ท็อปครัว และความลึกของท็อปอยู่ราวๆ 60 cm ซึ่งระยะเหล่านี้จะส่งผลต่อการเลือกซื้ออุปกรณ์เครื่องใช้ภายในครัว ส่วนความยาวแล้วแต่การออกแบบ และต้องคำนึงการจัดการพื้นที่ใช้สอยต่างๆ เช่น ระยะของการยืน เตรียม หรือระยะของตู้ลอยเหนือเคาน์เตอร์ครัว ซึ่งส่วนมากจะมีความลึกเป็นครึ่งนึงของเคาน์เตอร์ เช่น เคาน์เตอร์ระยะ 60 cm ตู้ด้านบนก็จะมีระยะอยู่ที่ประมาน 30 cm แต่ไม่เกิน 60 cm ทั้งนี้ เพราะเวลาเราใช้งานนั้น จะทำให้ปลอดภัย หัวไม่ไปชนด้านบนเวลาก้ม เงยหน้าเคาน์เตอร์นั่นเอง นี่เป็นตัวอย่างว่ามันปรับตามใจเราไปไม่ได้ทั้งหมดนะครับ มันอันตราย
พอเราเข้าใจในเรื่องของระยะแล้ว ทีนี่เราก็เลือกลักษณะของเคาน์เตอร์ที่จะนำมาใช้งานตามความเหมาะสม รสนิยิม ความชอบได้เลย ซึ่งปัจจุบันมีแบบของครัวมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเคาน์เตอร์สำเร็จรูป, เคาน์เตอร์ปูน, เคาน์เตอร์ไม้ ซึ่งสามารถเลือกได้มากมาย ซึ่งหลังจากได้วัสดุโครงหลักแล้ว ก็จะมาดูในเรื่องของวัสดุปิดผิวและวัสดุที่นำมาทำท็อปบนเคาน์เตอร์ ซึ่งก็มีให้เลือกหลายแบบ จนบางครั้งทำให้เจ้าของบ้าน ถึงกับมึนกันเลยทีเดียว ลองให้ช่างหรือนักออกแบบคู่ใจของคุณ เอาตัวอย่างมาเสนอนะครับ อย่าเลือกลามิเนตที่บางเกินไปนะครับเพราะเวลาเก็บงานอาจจะไม่เรียบ หรือการเลือกใช้ลามิเนตสีขาวระวังเรื่องการผลิตของแบรนด์นั้นๆด้วย เพราะผมเคยเจอสีขาวไม่เท่ากันมาแล้วเลือกแบรนด์ที่ไว้ใจได้ ซึ่งวัสดุปิดผิวปัจจุบันมีหลายแบรนด์มากที่สามารถทำมาใช้กับครัวได้ เพราะมีเทคโนโลยีที่ดีขึ้น สามารถกันความชื่นได้มากขึ้น บางแบรนด์สามารถกันเชื้อราได้อีกด้วย ซึ่งมีประโยชน์มากๆในระยะยาว แต่ก็ต้องแลกมากับราคานะครับ
เลือกสีให้ดี จะทำให้ครัวดูสวยได้
การเลือกสีและไสตล์ของห้องครัวก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ทำให้ครัวของเราดูสวยขึ้นมาได้ สีในที่นี่อาจรวมไปถึงวัสดุที่ดูมีรายละเอียดซึ่งเวลาโดนแสงไฟแล้วเกิดเป็นเงา ก็ยิ่งทำให้ครัวของเราน่าสนใจมากขึ้น การใช้สีของครัวก็ไม่ได้มีกฎตายตัว แต่ส่วนมากนั้น เรามักจะเลือกสีที่ดูสะอาดตา โดยการจับคู่กันระหว่างสีขาว หรือ ไม้ โทนครัวสว่างทำให้เรารู้สึกสบายตา สะอาด แต่ข้อเสียคืออาจจะต้องดูแลรักษาให้ดี (แต่จริงๆแล้วเราก็ควรดูแลครัวของเราให้ดี ไม่ว่าจะสีอะไร ถูกต้องไหมครับ)
ภาพจาก Home Bunch
ภาพจาก remodelaholic.com
จากตัวอย่างภาพจะเห็นได้ว่า ครัวในส่วนของเคาน์เตอร์ถูกออกแบบมาด้วยคู่สีเพียงไม่กี่คู่และเป็นโทนสว่าง ซึ่งส่วนมากบ้านเราจะนิยมกันครับ แต่ก็ไม่ใช่ว่า ครัวโทรมืดจะทำออกมาแล้วไม่สวยนะ เพราะก็มีหลายคนชอบอะไรที่ดิบๆเท่ๆ ซึ่งก็จับคู่สีออกมาได้ดูดีเลยทีเดียว
ภาพจาก multiform
สวยไหมครับ? ในความเป็นจริงๆเราหลายๆคนอาจจะคิดในใจว่า อยากจะมีครัวแบบนี้ แต่บ้านมันเล็ก จะทำยังไงได้, ก็บ้านเขาใหญ่นิ มันก็ต้องสวยสิ คำถามเหล่านี้อาจจะมีส่วนถูกอยู่บ้าง แต่ไม่ทั้งหมดนะครับ เพราะความเป็นจริงแล้ว เราก็สามารถทำพื้นที่เล็กๆของเรา ให้ออกมาดูดีได้เช่นกัน
www.ikea.com
เห็นภาพคร่าวๆแล้วใช่ไหมครับ ว่า เราสามารถทำให้พื้นที่เล็กๆของเราดูมีเสน่ได้อย่างไรบ้าง หลังจากที่ได้เรื่องสีแล้ว เราก็จะมาดูวัสดุที่ช่วยปกป้องด้านบน ก็คือ ท็อปของเคาน์เตอร์นั่นเอง ซึ่งก็มีหลากหลายชนิดมาก ทั้งไม้, หินแกรนิต, ปูน, หินเทียม, หินสังเคราะห์ ซึ่งแต่ละประเภทก็มีความแตกต่างกัน ทั้งเรื่องของราคา คุณสมบัติและความคงทน ซึ่งสามารถดูได้ที่บทความนี้ของเราครับ วัสดุปิดผิวหน้ามีอะไรบ้าง
ผมหวังว่าจากบทความนี้อาจจะทำให้หลายๆคนพอจะเห็นภาพของการทำห้องครัวได้ดีมากขึ้น อย่าลืมว่าการทำครัวให้สวยจะต้องมีความเหมาะสมกับการใช้งานด้วย 1.ดูพื้นที่ให้เหมาะสมกับเคาน์เตอร์ของเรา 2.ใช้ขนาดความสูงความลึกให้เหมาะสมทั้งตู้ลอยด้านบน และเคาน์เตอร์ด้านล่างหรือระยะการวางของ เตรียมอาหาร ช่องว่างในการเดิน รวมไปถึงระยะในการก้มหรือเก็บของด้านล่าง 3.เลือกวัสดุให้คุ้มค่าและเหมาะกับครัวของเรา 4.เลือกโทนสีให้ดี
บทความนี้พูดถึงแค่ส่วนของครัวนะครับ ในความเป็นจริงเราต้องดูบริบทและความเหมาะสมของบ้านทั้งหลัง(จะสวยแค่ห้องเดียวคงไม่ได้ใช่ไหมครับ) การออกแบบไม่ได้มีข้อจำกัด แต่งบ้านของคุณให้สนุกนะครับ เพราะนอกจากที่ผมเล่าให้ฟัง ยังมีเรื่องของไฟที่ทำให้ห้องของเราสวยขึ้นมาอีกเมื่อเรารู้จักวิธีการใช้ไฟตกแต่งห้อง อย่าลืมนะครับ “บ้าน” ทำครั้งหนึ่งใช้ไปหลายสิบปี เพียงแค่คอยดูแลรักษาให้ถูกต้อง ไว้ครั้งหน้าถ้ามีโอกาสจะทำบทความเกี่ยวกับโปรเจคออกแบบห้องครัวให้กับเจ้าของบ้านที่ซื้อจัดสรรจากโครงการที่มีขนาดปานกลาง 180-200 ตรม. มาให้ดูนะครับ เพราะปัญหาส่วนมากของโครงการบ้านคือพื้นที่ที่จำกัด