ความรู้เบื้องต้นของ วัสดุปิดผิวหน้า บนเฟอร์นิเจอร์
วัสดุปิดผิวหน้า แบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ วัสดุปิดผิวที่ทำจากวัสดุธรรมชาติ ได้แก่ หินแกรนิต หินอ่อน และไม้ ส่วนวัสดุที่ไม่ได้ทำมาจากธรรมชาติคือ วัสดุที่สังเคราะห์ขึ้น ได้แก่ หินสังเคราะห์ หินโปรงแสง (Alabaster) Eco Panel ซึ่งวัสดุแต่ละชนิดจะมีคุณสมบัติ จุดดี จุดด้อย ที่ต่างกัน ทั้งในเรื่องความสวยงาม ความแข็งแรงคงทนทานเพื่อการเลือกใช้อย่างถูกต้องต่อไป สามารถทำความรู้จักว่า หินสังเคราะห์คืออะไร ได้ที่บทความก่อนหน้า ซึ่งสามารถเลือกใช้ตามวัตถุประสงค์ของการใช้งาน เช่น การใช้หินบนเคาน์เตอร์ครัว การใช้ ลามิเนตในการติดตั้งแทนไม้ธรรมชาติ
พื้นผิวจากวัสดุธรรมชาติ
ในส่วนของพื้นผิวที่เป็นวัสดุจากธรรมชาติมีข้อดีที่ความสวยงามและความแข็งแกร่ง แต่หากมองลึกลงไปถึงเรื่องของสุขอนามัยแล้ว วัสดุจากธรรมชาติอย่างหินแกรนิตหรือหินอ่อน จะมีข้อเสียอยู่ที่ลักษณะภายในเนื้อหินนั้นมีรูพรุน ทำให้มีอัตราในการดูดซึมน้ำค่อนข้างมาก จึงเป็นจุดเริ่มของการเกิดเชื้อราได้ง่าย อย่างไรก็ตามหินแกรนิตจะมีความหนาแน่นสูงกว่าหินอ่อนและมีรูพรุนน้อยกว่าจึงดูดซึมน้ำน้อยกว่าหินอ่อน จึงทำให้หินแกรนิตเป็นที่นิยมนำมาใช้ในการทำพื้นผิวเคาน์เตอร์ครัวส่วนใหญ่ เนื่องจากหินแกรนิตมีสุขอนามัยที่ดีกว่า กล่าวคือเกิดเชื้อราได้ยากกว่าหินอ่อนนอกจากนี้หินแกรนิตยังมีสีสันสวยงามตามธรรมชาติ
พื้นผิวจากหินสังเคราะห์และวัสดุอื่นๆ
หินสังเคราะห์หรือเรียกว่า “หินเทียม” จะมีความ แข็งแรง มีสีสันสวยงาม และสามารถตอบโจทย์ในเรื่อง
ของสุขอนามัยได้เป็นอย่างดี เนื่องจากไม่มีรูพรุนจึงไม่ก่อให้เกิดการสะสมของเชื้อโรคต่างๆ โดยหินสังเคราะห์
นี้ก็มีอยู่หลายประเภท ได้แก่ หินสังเคราะห์ที่ผลิตขึ้นจาก อะครีลิค 100% อะคริลิกผสมโพลีเอสเตอร์ และหินสังเคราะห์ที่เรียกว่า “Sintered stone” จะมีส่วนผสมของแร่หินควอตซ์ แก้วโพลิเมอร์เรซิ่นและสี
หินสังเคราะห์ที่ผลิตขึ้นจากอะคริลิก 100% มีข้อดีคือไม่มีรูพรุนสามารถป้องกันการดูดซึมน้ำได้อย่างสมบูรณ์ จึงไม่เป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค นอกจากนี้หินสังเคราะห์ที่ผลิตขึ้นจาก อะคริลิกยังสามารถป้องกันรังสียูวีและมีอายุการใช้งานยาวนาน ตลอดจนสีของพื้นผิวไม่เปลี่ยนแปลงเพราะไม่ทำปฏิกิริยากับแสงยูวี ทนความร้อน กรดและด่าง ด้วยเหตุผลดังกล่าวทำให้พื้นผิวที่ผลิตขึ้นจากอะคริลิกได้รับความนิยมในการนำมาใช้ ในอุตสาหกรรมอาหาร และทางการแพทย์ นอกจากนี้หินสังเคราะห์ที่ผลิตขึ้นจากอะคริลิก 100% จะสามารถ
ดัดโค้งได้ง่ายทำให้ตอบโจทย์ในเรื่องของการตกแต่งและดีไซน์ที่สวยงามได้เป็นอย่างดี
หินสังเคราะห์ที่มีส่วนผสมของอะคริลิกและโพลีเอสเตอร์ หินสังเคราะห์ประเภทนี้จะมีคุณสมบัติเด่นในเรื่องความแข็งแรงคงทนทาน ไม่ดูดซึมน้ำ และสามารถทนความร้อนได้เป็นอย่างดี แต่อย่างไรก็ตามหินสังเคราะห์ประเภทนี้จะดัดโค้งค่อนข้างยาก ทำให้ตอบสนองต่องานออกแบบที่มีลักษณะโค้งได้ไม่ทั้งหมด
หินสังเคราะห์ประเภท Sintered stone หินสังเคราะห์ประเภทนี้ส่วนใหญ่จะมีแร่หินควอตซ์ แก้ว โพลิเมอร์เรซิ่นและสี คุณสมบัติพิเศษของหินสังเคราะห์ประเภทนี้คือ มีความต้านทานต่อการเกิดรอยด่างสูงกว่าหินแกรนิต และสามารถทนต่อความร้อนได้สูงถึง 200 องศาเซลเซียส
หินโปรงแสง (Alabaster) นับเป็นหินสังเคราะห์ประเภทหนึ่ง จุดเด่นคือแสงสามารถผ่านได้ มีลวดลายสวยงาม สามารถตบแต่งลวดลายหลากหลาย สามารถตอบโจทย์ในเรื่องของการตกแต่งและดีไซน์ที่สวยงามได้เป็นอย่างดี แต่หินโปรงแสงมีรูพรุนทำให้ไม่เหมาะกับงานด้านอุตสหกรรมอาหาร แต่เหมาะกับงานตบแต่งเพื่อความสวยงามเป็นหลัก
ลามิเนต (Laminate) เป็นวัสดุปิดผิวที่ผลิตจากไม้สำเร็จรูปที่ผลิตขึ้นมาโดยวิธีทางวิทยาศาสตร์ แต่ยังคงใช้วัสดุพื้นฐานเป็นไม้และใช้ เรซิ่นกับไฟเบอร์เป็นส่วนประกอบ ซึ่งลามิเนตจะสามารถดัดโค้งเข้ารูปทรงได้ง่าย แต่ไม่ควรนำไปใช้กับงานที่มีการขัดถู เนื่องจากพื้นผิวสามารถเป็นรอยขีดข่วนได้
Eco Panel เป็นวัสดุปิดผิวที่ผลิตจากธรรมชาติผสมผสานกับวัสดุสังเคราะห์อย่างลงตัวโดยใช้วัสดุธรรมชาติร่วมกับโพลิเมอร์ใสหรือกึ่งใสเป็นส่วนประกอบ โดยการนำวัสดุจากธรรมชาติเช่น ดอกกุหลาบ, ใบโพธิ์, ทองคำเปลว และอื่นๆ มาจัดวางในรูปแบบต่างๆ ทำให้ตอบโจทย์ในเรื่องของการตกแต่งและดีไซน์ที่สวยงามได้อย่างลงตัว
อย่างไรก็ตามการจะเลือกใช้วัสดุประเภทใดมาใช้ปิดผิวนั้นขึ้นอยู่กับการออกแบบ การนำไปใช้ รสนิยมของผู้ออกแบบ หรือ เจ้าของโครงการ